จะจองห้องพักที่ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา เมืองตรัง
“พร้อมต้อนรับคุณด้วยพนักงานที่ยิ้มแย้มแจ่มใสอีกทั้งห้องพักที่ตกแต่ง อย่างทันสมัย และสิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโรงแรมมากมายอาทิเช่น สระว่ายน้ำ, ซาวน่า, สตรีม และจากุซซี่”

ประเภทห้องพัก	ราคาปกติ	ราคาช่วงเทศกาล
Superior Room	1,400 บาท	1,700 บาท
Deluxe Room	1,800 บาท	2,100 บาท
Junior Suite	3,500 บาท	3,800 บาท
ราคารถรับ - ส่ง จากสนามบินตรัง
เส้นทาง	เที่ยวเดียว	2 เที่ยว ไป-กลับ
รถโรงแรม (จากสนามบินตรัง - โรงแรม - สนามบิน)	90 บาท	180 บาท
รถเหมา (จากสนามบินตรัง - โรงแรม - สนามบิน)	600 บาท	1,200 บาท
โทรจองห้องที่ 075 502 938

จะจองห้องพักที่ เกาัไหงคลิปบีชรีสอร์ท
พร้อมด้วยบรรยากาศบนเกาะที่มีชายหาดแสนสวยรอต้อนรับคณะอยู่ และสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวทะเล เหมาะกับวันพักผ่อนของท่านอย่างแท้จริง เลือก เกาะไหงคลิปบีชรีสอร์ท แล้วท่านจะสมหวังดังใจนึก

ราคาห้องพัก เกาะไหงคลิปบีชรีสอร์ท
ประเภทห้องพัก	ราคาช่วง 1/11/14-30/04/15	ราคาช่วง 1/05/15-31/10/15	ช่วงสงกรานต์
Superior Sea View	2,500.-	1,800.-	2,800.-
Deluxe Sea View	3,200.-	2,300.-	3,500.-
The Ocean View Suite	4,800.-	3,500.-	5,500.-
Extra Bet	900.-	850	900.-
ราคารถรับ ส่ง ไปยังรีสอร์ท
แบบรถเหมา (สนามบินตรัง - ท่าเรือปากเมง-รีสอร์ท)	เที่ยวเดียว 1,000.-	สองเที่ยว ไป กลับ 2,000.-
แบบรถเหมา (เมืองตรัง - ท่าเรือปากเมง-รีสอร์ท)	เที่ยวเดียว 1,000.-	สองเที่ยว ไป กลับ 2,000.-
แบบรถจอยกับคนอื่นๆ (สนามบินตรัง - ท่าเรือปากเมง-รีสอร์ท)	เที่ยวเดียว 200.-	สองเที่ยว ไป กลับ 400.-
แบบรถจอยกับคนอื่นๆ (เมืองตรัง - ท่าเรือปากเมง-รีสอร์ท)	เที่ยวเดียว 150.-	สองเที่ยว ไป กลับ 300.-
ค่าเรือ จากปากเมง - รีสอร์ท - ท่าเรือปากเมง	เที่ยวเดียว 350.-	สองเที่ยว ไป กลับ 700.-
ท่านสามารถจองห้องพัก รถรับส่ง เรือ ได้ที่เบอร์ 075 502 938 / 081 415 5955

นอกจากนี้เรายังมีที่พักอื่นๆ ที่จะแนะนำท่านอีกทุกที่ใน เมืองตรัง เช่น
1. อ่าวทองอาพาร์ทเม้น
2. โรงแรมบีบีตรัง
3. โรงแรมธรรมรินทร์
4. โรงแรมเรือรัษฎา ตรัง
5. โรงแรมบัดเจทตรัง
ุ6. ท่าปาบรีสอร์ท
7. อีโค่อิน
8. แกรนด์ตรังแมนชั่น
9. สเตชั่นอิน
10. โรงแรมวัฒนาพาร์ท
11. อนันตาราสิเการีสอร์ท
12. เลตรังรีสอร์ท
13. ปากเมงรีสอร์ท
14. ทรายทองรีสอร์ท
15. เกาะมุกรีสอร์ท
16. เกาะไหงรีสอร์ท
17. เกาะมุกชาลีรีสอร์ท
18. เกาะไหงแฟนตาซีรีสอร์ท
19. มณีวรรณแมนชั่น
20. และที่พักอื่นๆ อีกมากมายในเมืองตรังสอบถามราคา และจองได้ที่ 075 502 938/081 415 5955

แหล่งท่องยอดนิยมเมื่อท่านมาตรัง แล้วต้องเที่ยวให้ได้ เช่น:
1. เกาะมุก Koh Mook ลักษณะของเกาะ ส่วนใหญ่เป็น โขดผาสูงตระหง่าน หันหน้าออกสู่ทะเลใหญ่ทางด้านทิศตะวันตก หมู่บ้านชาวประมงจะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของตัวเกาะ ซึ่งหันหน้าเข้า แผ่นดินใหญ่หน้าผาโขดหินสูง เป็นที่อาศัยของนกนางแอ่นและได้ซุกซ่อนถ้ำมรกต หรือถ้ำน้ำซึ่งมีความงดงามตระการตา ได้อย่างมิดชิดถ้ำมรกต นี้จะเข้าออก ได้เฉพาะ ช่วงน้ำลงเท่านั้น โดยปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือลอดได้ พ้นปากถ้ำเข้าไปเป็นเส้นทางคดโค้งระยะทางประมาณ 80 เมตร เมื่อพ้น ปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผา สูงชันที่มีฟ้า สีครามเป็น หลังคาและผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้าถ้ำมรกต จะอยู่ทางด้าน ทิศตะวันตกของตัวเกาะ เกาะมุก เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของท้องทะเลตรัง มีชมชนชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่บนเกาะมานานแล้ว ปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่ยังทำประมงขนาดเล็กด้วยเรือหางยาว มีจำนวนเรือมากกว่าเกาะอื่นๆ รวมถึงสวนยางพาราและสวนมะพร้าวด้วย จุดเด่นของเกาะมุกคือ ถ้ำมรกต ถ้ำน้ำเล็กๆซึ่งมึความยาวประมาณ 80 เมตร นักท่องเที่ยวต้องลอยตัวฝ่าความมืดเพื่อเข้าไปพบกับห้องโถงไร้หลังคาขนาดใหญ่ภายในนี่เองเรียกว่าถ้ำมรกต น้ำทะเลภายในห้องโถงนี้มีสีเขียวใสราวมรกตทรายก็ขาวละเอียดมาก เหมาะแก่การพักผ่อนชมทัศนียภาพอย่างยิ่ง
การเดินทางไปเกาะมุก : จากท่าเรือควนตุ้งกู มีเรือโดยสารออกวันละเที่ยวช่วงเช้า หรือจะเหมาเรือหางยาวขนาดใหญ่ไปก็ได้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที ขึ้นเกาะมุกที่ท่าเรือสะพานยาวด้านหน้าเกาะ จากนั้นต้องเช่าเรือหางยาวเพื่อไปเที่ยวถ้ำมรกตซึ่งอยู่ด้านหลังเกาะ หรือจะเลือกใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ One Day Tour ที่ท่าเรือปากเมงก็ได้
เกาะมุก ยังคงสงบเงียบ คงความเป็นธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชาวเกาะ ทำให้เกาะมุกดูมีเสน่ห์เอามาๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบความวุ่นวายใดๆ เพราะแม้จะเปิดให้ท่องเที่ยว แต่ว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะ ก็ยังคงดำเนินต่อไปให้เราได้ชื่นชม ทั้งวิถีชาวประมง และวิถีของชาวสวนยางพาราและสวนมะพร้าว ชาวบ้านที่นี่ก็ยังดำเนินชีวิตไปตามแบบฉบับเดิม ที่เคยมีอยู่ จะมีเพิ่มเติมก็ในส่วนของกิจการร้านอาหาร รีสอร์ทบ้านพักโฮมสเตย์ ที่เข้ามาบริการนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนก็เท่านั้น
2. เกาะเหลาเลียง  เหลาเหลียง หรือ หลาวเหลียง หรือ เหล่าเหลียง ตั้งอยู่ในตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นหนึ่งในหมู่เกาะเภตรา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามของภูเขาหินปูนตามธรรมชาติสูงเสียดฟ้า หมู่เกาะเภตรา ประกอบไปด้วยเกาะเภตรา เกาะเหลาเหลียง (หรือเกาะหลาวเหลียง) เกาะทะลุ เกาะตาใบ เกาะตะลุ้ยน้อย เกาะตะลุ้ยใหญ่ และเกาะตะเกียง หมู่เกาะดังกล่าวอยู่ในเขตสัมปทานรังนกอีแอ่น จังหวัดตรัง ทำให้หมู่เกาะเภตรา กลายเป็นพื้นที่ปิดมานานนับสิบปี สภาพของธรรมชาติบนเกาะและในทะเล จึงยังคงความสมบูรณ์สวยงามเป็นธรรมชาติ ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ความอุดมสมบูรณ์ของปะการังอ่อน และปะการังแข็ง กัลปังหา ปลาทะเลสวยงามและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำมากมาย รอการมาสัมผัสจากนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ เกาะเหลาเหลียง ประกอบไปด้วยเกาะสองเกาะ คือ เหลาเหลียงน้อง (เหนือ) และ เหลาเหลียงพี่ (ใต้)
การเดินทางไปเกาเหลาเลียง: การเดินทางไป-กลับ จากท่าเรือหาดยาว-เหลาเหลียง เป็นเรือเฟอรรี่ขนาดใหญ่ขนาด 200 ที่นั่ง ของบริษัท ไทเกอร์ไลน์ ทราเวล จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านท่องเที่ยวทางทะเล มีความปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว รับรองท่านด้วยห้องปรับอากาศ และดาดฟ้าไว้รับลมชมวิวทะเล โดยเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ออกเดินทางวันละ 1 เที่ยว
3. เกาะกระดาน สถานที่จดทะเบียนใต้น้ำ ในงานวิวาใต้สมุทรของจังหวัดตรัง เกาะกระดาน เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง (ไม่นับเกาะรอก ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่เดินทางได้สะดวกจากตรัง) มีเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่   5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นสวนยางและสวนมะพร้าวของเอกชน เกาะกระดานเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด ชายหาดกว้างใหญ่สวยงามน่าเล่นน้ำ น้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากหลายพันธุ์ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาแวะจอดเรือเล่นน้ำ อาบแดด หรือนั่งละเลียดความสุขดื่มด่ำกับความงามของหาดทราบกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีอ่าวเนียง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นชมปะการังได้อย่างสวยงามในวันที่เหมาะสม น้ำทะเลที่อ่าวเนียงนี้จะใสปิ๊งเป็นสีมรกตงดงามมาก เหล่าปะการังใต้น้ำเป็นปะการังแข็งที่มีชีวิต มีฝูงปลาต่างๆ หลากหลายให้ชื่นชม  บนเกาะมีที่พักบริการทั้งของเอกชนและหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ
การเดินทางเกาะกระดาน :  มีเรือของรีสอร์ทบนเกาะกระดานบริการนักท่องเที่ยวที่จองที่พักกับรีสอร์ทต่างๆ และมีเรือเช่าเหมาลำจากท่าเรือปากเมงและท่าเรือควนตุงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
4. เกาะตะเกียง เป็นเกาะเล็กๆที่ธรรมชาติไม่เล็กๆ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมธรรมชาติที่เกาะหลาวเหลียง แล้วจะเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อยก็ถึงเกาะตะเกียง  เกาะตะเกียงมีลักษณะเป็นป่าเขียวครึ้ม หน้าเกาะเป็นแนวหาดขาวนวลที่หันหน้าเข้าหาเกาะหลาวเหลียงสามารถมองเห็นเกาะหลาวเหลียงได้ ที่วิเศษไปกว่านั้นคือโลกใต้ทะเลที่หน้าหาดน้ำค่อนข้างตื้นสามารถชมปะการังได้ง่าย มีปะการังหลายชนิด
จุดเด่นของเกาะตะเกียงคือ : เกาะเล็กๆที่มะรรมชาติไม่เล็กๆนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมธรรมชาติที่เกาะหลาวเหลียง แล้วจะเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อย ถึงเกาะตะเกียง
เกาะตะเกียงมีลักษณะเป็นป่าเขียวครึ้ม หน้าเกาะเป็นแนวหาดขาวนวลที่หันหน้าเข้าหาเกาะหลาวเหลียงสามารถมองเห็นเกาะหลาวเหลียงได้ ที่วิเศษไปกว่านั้นคือโลกใต้ทะเลที่หน้าหาดน้ำค่อนข้างตื้นสามารถชมปะการังได้ง่าย มีปะการังหลายชนิด และที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากก็คือฝูงปลาหลากสีที่คุ้นเคยกับนักท่องเที่ยว หากโชคดีอาจจะได้เห็นกุ้งมังกรด้วย
การเดินทางไปเกาะตะเกียง : เกาะตะเกียงอยู่ค่อนไปในทะเลตรัง ห่างจากฝั่งเขตอำเภอปะเหรียงประมาณ 20 กิโลเมตร เหมาเรือจากท่าเรือแหลมตาเสะ ใช้เวลา 1 วันเที่ยวได้หลายเกาะ เช่น เกาะหลาวเหลียง เกาะตะเกียง และเกาะเภตรา เรือหางยาว 1 ลำนั่งได้ 8-10 คน
5. เกาะม้า อยู่ระหว่างเกาะมุกและเกาะไหง   ถือเปนจุดดำน้ำชมปะการัง ที่สวยที่สุดของทะเลตรังสามารถ ชม ปะการังอ่อนมีทั้งสีแดง สีส้ม สีม่วง สีเหลือง สีชมพู และอีกมากมาย สัมผัส ดาวขนนก เกาะม้า อยู่ใกล้ไกับเกาะเชือก ไม่มีชายหาด ซึ่งหากมองผิวเผินจะดูเหมือนกองหินขนาดใหญ่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น จุดเด่น ของ 2 เกาะนี้อยู่ที่จุดดำน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงาม ระหว่าง 2 เกาะนี้มีกระแสน้ำเชี่ยว จึงต้องใช้เชือกคอยช่วงพยุงตัวเวลาดำน้ำ จึงเป็นที่มาของเกาะเชือก ส่วนเกาะม้า รูปร่างของเกาะคล้ายกับห้วม้ากลางทะเล ปะการังอ่านหลากสีที่ปกติแล้วจะพบแต่ใจน้ำลึก สามารถพบเห็นได้ที่ระดับน้ำไม่ลึกนัก ปะการังอ่อนสกุล Dendronephthya ถือเป็นหนึ่งในทรัพยากรการท่องเที่ยวสำคัญสูงสุดของท้องทะเล เพราะสีสันอันสดใสและรูปทรงไม่ธรรมดา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทุกคนที่ได้เห็น ปกติปะการังอ่อนสกุลนี้พบอยู่ในที่ลึกระดับ 10 เมตรขึ้นไป แต่เกาะม้ามีลักษณะพิเศษ กระแสน้ำไหลแรงทำให้ปะการังอ่อนเหล่านี้อาศัยอยู่ทั่วไปแม้ในที่ตื้น มองเห็นได้ด้วยสายตาจากผิวน้ำ เกาะม้าจึงกลายเป็นจุดดำน้ำแบบ Snorkelling หรือดำน้ำใส่ชูชีพแสนสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถลงไปมองเห็นดงปะการังอ่อนที่ยิ่งใหญ่ด้วยสายตาตนเอง เพียงแต่ต้องระวังอันตรายจากกระแสน้ำไหลแรง พยายามเกาะเชือกที่ผูกไว้กับหิน อยู่รวมกันเป็นกลุ่มอย่าทะนงคิดว่าเราแข็งแรงว่ายน้ำไปคนเดียวได้
การเดินทางไปเกาะม้า:  สามารถเหมาเรือจากท่าเรือปากเมงมาเที่ยว แต่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะใช้บริการแพ็กเกจทัวร์ในรูปแบบ One Day Tour ซึ่งราคาจะถูกกว่า และมีอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบครัน ทั้งเสื้อชูชีพ หน้ากากดำน้ำและท่อหายใจ
เกาะม้า รูปร่างของเกาะคล้ายกับห้วม้ากลางทะเล ปะการังอ่านหลากสีที่ปกติแล้วจะพบแต่ใจน้ำลึก สามารถพบเห็นได้ที่ระดับน้ำไม่ลึกนัก ที่เกาะเชือกนี้เท่านั้น ใกล้ๆกับเกาะเชือกยังมีเกาะแหวน ซึ่งล้วนเป็นเกาะหินไร้หาดที่นับได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำโดยแท้จริง เพียงไม่กี่เมตรจากการลอยตัวสวมแว่นดำน้ำ ก็สามารถชมโลกใต้ทะเลที่สวยงามได้แล้ว ไม่ต้องเป็นนักดำน้ำมืออาชีพ ก็มีสิทธิ์เห็นดอกไม้ทะเล ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อน และหมู่ปลาหลากสีที่สวยเหมือนในภาพถ่ายได้เช่นกัน
6. เกาะเชือก อยู่ใกล้กับเกาะม้า การดำน้ำดูปะการังต้องเกาะเชือกจึงเป็นที่มาของเกาะเชือกครับ
การเดินทางไปเกาะเชือก: จากตัวเมืองตรังใช้เส้นทางไปหาดปากเมง หรือท่าเรือปากเมง ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร จากนั้นให้ท่านจองทัวร์กับเที่ยวสนุกทัวร์เพื่อเข้าสู่ทริปทะเลตรังวันเดย์ทริป ครับ

มาตรังทั้งทีแนะนำเที่ยวทะเลตรัง แบบ 2 วัน 1 คืน พักโรงแรมธรรมรินทร์ เที่ยวครบ ในราคาเพียง 1,100 บาท ชมถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะม้า ตรังเป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางบก และทางทะเล จุดเด็นของทะเลตรัง แน่นอนไม่พ้นทะเล ทริปนี้จะพาท่านเที่ยวในบรรยากาศแบบเต็มอิ่มกับการท่องทะเล
วันแรก
08.30 น.	รถรับโรงแรมที่พัก หรือ ที่สนามบิน หรือ สถานีรถไฟ ขึ้นรถที่เตรียมไว้เดินทางมุ่งหน้าสู่ ท่าเรือปากเมง เตรียมพร้อมสำหรับขี้นเรือ
09.30 น.	ขึ้นเรือเดินทางสู่เกาะมุก ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ถ้ำมรกต สนุกสนานกับการลอยตัวเข้าชมถ้ำมรกต (Unseen in Thailand ) พร้อมค้นหาที่มาของชื่อถ้ำ ซึ่งมีประวัติอยู่ภายในถ้ำ ขณะที่ลอยตัวเข้าไปถ้ำ จะได้เห็นความสวยงามของสีเขียมมรกต
	จากนั้นเดินทางสู่เกาะกระดาน เกาะกระดานเป็นเกาะที่สวยที่สุดในหมู่เกาะทะเลตรัง น้ำใส หาดทรายขาว ให้ท่านลงเล่นน้ำ ดูปะการัง ซึ่งเกาะแห่งนี้ เป็นที่แต่งงานใต้น้ำของจังหวัดตรัง ท่านจะเห็นปะการัง ปลาดาวขนาดใหญ่ หลากสีสัน พร้อมสัมผัสหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียด หรือพักผ่อนตามอัธยาศัย ได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับท่าเรือครับ
12.00 น.	รับประทานอาหารเที่ยง บนเรือแบบบุฟเฟ่ รับประทานแสนอร่อยจากครัวถูกหลักอนามัย พร้อมของว่าง ชา กาแฟ ตลอดทริป
13.30 น.	เกาะเชือก เป็นเกาะหินปูนตั้งคู่กันสองเกาะ ซึ่งเป็นแหล่งปะการังน้ำตื่นที่สวยงามของจังหวัดตรัง ท่านจะได้ชมความงานของปะการังแข็งและปะการังอ่อนหลายหลากสี ฝูงปลามากมายให้ท่านชม เกาะม้าเป็นเกาะที่อยู่ใกล้กับเกาะเชือกแต่อยู่ในเขตน่านน้ำของจังหวัดกระบี่ ปะการังที่นี่โดยรอบเกาะสวยมากครับ ล้อมรอบโดยปะการังแข็งและปะการังอ่อน บนเกาะจะมี ค้างคาวแม่ไก่ ที่คอยส่งเสียง อยู่ด้านบน เกาะม้า มองจากบนเรือ แล้วดูคล้ายกับ ม้า หรือ ม้าหมากรุก จึงเป็นที่มาของเกาะม้า ท่านสามารถลงเล่นน้ำ ให้อาหารฝูงปลา ตกปลาหมึกได้ที่นี่
16.30 น.	เดินทางถึงท่าเรือ ปากเมง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ รถรับเดินทางกลับตัวเมืองตรัง เข้าพักที่โรงแรมธรรมรินทร์ พักผ่อนตามอัธยาศัย (ลูกค้าสามารถชิมอาหารยามเย็นได้หลายร้าน)
วันที่สอง
10.00 น.	ออกจากโรงแรม ลูกค้าเดินทางกลับ โดยสวัสดิภาพ จบโปรแกรม
ราคาต่อท่าน เริ่มท่าเรือปากเมง ท่านละ 1,100 บาท เริ่มในเมืองตรัง ราคาท่านละ 1,200 บาท
ราคานี้รวม ห้องพักที่ธรรมรินทร์ ค่าเรือนำเที่ยว  อาหารเที่ยงแบบบุปเฟ่อาหารใต้ (อิสลามทานได้) อุปกรณ์ดำน้ำ หน้ากาก เสื้อชูชีพ ค่าธรรมเนียมอุทธยานสำหรับคนไทย อาหารว่าง ผลไม้ น้ำดื่ม น้ำแข็ง ค่าประกันตาม พรบ.เรือ ค่ารถตู้รับส่ง กรณีจองแบบรับในตัวเมือง ค่ามัคคุเทศก์นำเที่ยวตลอดโปรแกรม ค่าประกันอุบัติเหตุ ทุนประกัน 1,000,000 บา
ราคานี้ไม่รวม อาหารเย็น ค่าธรรมเนียมอุทธยานชาวต่างชาติ 200 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (ในกรณีลูกค้าร้องขอ
เมนูอาหารบนเรือวันที่ท่านดำน้ำ  แกงส้มปลาสับปะรด ปลาหมึกทอดกระเทียม ขนมเค๊ก น้ำพริก ผักสด ทอดมันปลากราย แตงโม สับปะรด ผัดโป๊ยเซียน ข้าวสวย ไข่เจียว ชา กาแฟ โอวัลติล
ร้านขายของฝากในเมืองตรัง เช่น 1. ร้านเค้กคนิฐา อำเภอนาโยง 2. ร้านเค้กยลรดี อยู่ทางไปถ้ำเลเขากอบ 3. ร้านเค้กสายใจ ทางไปพัทลุง ก่อนถึงร้านเค้กคนิฐา
ร้านขายหมู่ย่างในจังหวัดตรัง 1. ร้านตรังหมู่ย่าง 2. ร้านบัวบก 3. ร้านพงษ์โอชา 4. ร้านเรือนไทยติ่มซำ